ในชีวิตประจำวันบนโลกใบนี้มันมีหลายสิ่งที่เข้ามา สิ่งเหล่านั้นมีทั้งที่สำคัญและไม่สำคัญต่อเราในช่วงเวลานั้น ๆ เพราะเราไม่สามารถระบุได้อย่างแน่นอนว่าแต่ละสิ่งที่เข้ามาเป็นประโยชน์ต่อเรา มันอาจจะเป็นประโยชน์ในวันนี้แต่อาจจะไม่ส่งผลในระยะยาว ซึ่งหากเราเรียนรู้และมีระบบในการตัดสินใจที่นำระยะเวลาของสิ่งนั้นเข้ามาร่วมด้วยมันก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจของเราในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน
ในระหว่างที่นั่งทำงานกับทีมก็มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันไปหลาย ๆ เรื่อง และในวันนี้การสนทนาในทีม I DID ได้พูดถึงเป้าหมายของชีวิต คำถามนี้เป็นคำถามที่ต้องใช้เวลาคิดก่อนที่จะตอบ และคำตอบที่ออกมาอาจจะแตกต่างกันหากเราตอบให้กับตัวเองคนเดียว หรือการตอบในที่สาธารณะที่มีผู้อื่นคอยฟังอยู่ด้วย คำตอบที่เราควรจะให้ความสำคัญกับมันคือตอบที่เราให้ตัวเอง และเราต้องเชื่อด้วยว่าคำตอบนี้เป็นสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง เพราะนี้ไม่ใช่เป็นการตั้งเป้าหมายตอนวันที่ 1 มกราคม ของทุก ๆ ปี แต่คำตอบนี้ควรจะนำพาให้เราวางแผนและตัดสินใจทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างน้อย 3 ปี
ส่วนต่อไปในการตั้งเป้าหมายของชีวิตคือการถามคำถาม เราควรจะถามตัวเองว่าเราต้องการอะไร ต้องการไปทำไม ต้องการให้เห็นผลลัพท์ตอนไหน ต้องมีกิจกรรมอะไรบ้าง ต้องการทรัพยากรอะไรบ้าง ตอนนี้เรามีอะไร และเราจะหาทรัพยากรเหล่านี้ได้จากที่ไหน เราหาตัวอย่างในการทำสิ่งนี้ได้อย่างไร เราหาผู้ชี้แนะได้อย่างไร นี่คือคำถามเบื้องต้นในการวางแผนเป้าหมายของชีวิตเพราะมันต้องมีเหตุผลที่หนักเพียงพอที่จะดันให้เรามีแรงผลักดันที่จะเริ่ม และมีนิสัย (สันดาน) ที่จะทำมันให้สำเร็จ

เราจะวัดผลที่ออกมีอย่างไร ความหมายคือวิธีการและความถี่ในการวัดผล ตัวอย่างเช่นเราตั้งเป้าหมายที่จะลดนำ้หนักหากเราวันในแต่ละเดือนก็อาจจะไม้ได้ผลเพราะระยะเวลาที่นานเกินไป เราควรจะวันทุกวัน ทุก 2 – 3 วัน หรือสัปดาห์ละครั้ง ทำไมต้องมีการวัดผลที่เหมาะสม? ก็เพื่อที่เราจะได้ปรับวิธีการปฏิบัติให้สอดคล้องกับผลลัพท์ที่เราอยากได้ หากเราวัดผลในวันที่เราวางวันกำหนดมันก็จะสายเกินไปที่จะแก้ไข การประเมินหรือการวัดผลจึงเป็นส่วนที่สำคัญที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จ
ฉะนั้นในการตั้งเป้าหมายขของชีวิตเราควรใช้เวลากับมันให้ดี และนำ 3 ข้อปฏิบัตินี้ไปใช้ คุณสามารถใช้ระบบอื่นได้เช่นกัน อาทิเช่นระบบแนวคิด I DID